อากาศในภูฏานแต่ละเดือนเป็นอย่างไร?

การเลือกช่วงเวลาเที่ยวภูฏาน บางครั้งไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ฤดู แต่ขึ้นอยู่กับว่า “คุณชอบอากาศแบบไหน” — บางคนหลีกเลี่ยงความหนาว บางคนรอให้หิมะตก บางคนชอบฟ้าใสสบาย และบางคนรอเพียงช่วงที่ดอกไม้เริ่มผลิบานในหุบเขา

เพื่อให้คุณวางแผนได้ง่ายขึ้น เราจึงรวบรวมอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด/ต่ำสุดของเมืองสำคัญในภูฏานไว้ในตารางเดียว

หมายเหตุ: อุณหภูมิเป็นค่าเฉลี่ยโดยประมาณ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในแต่ละปี โดยเฉพาะในฤดูฝนและฤดูหนาว

สรุปสั้น ๆ:

• ☁️ พาโร / ทิมพู / บุมถัง – เย็นตลอดปี โดยเฉพาะหน้าหนาว
• 🌤️ พูนาคา – อากาศอบอุ่นกว่า เหมาะกับคนไม่ชอบหนาวจัด

ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) – ฤดูแห่งความสดชื่นและการเริ่มต้น

ถ้าคุณชอบเดินทางในบรรยากาศที่ธรรมชาติกำลังฟื้นตัวจากฤดูหนาว — ใบไม้เริ่มผลิ ดอกไม้ป่ากำลังบาน และอากาศยังเย็นพอให้ใส่เสื้อโค้ทบาง ๆ แบบไม่เหนื่อยเกินไป…ฤดูใบไม้ผลิในภูฏานคือคำตอบ

ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นพฤษภาคม หุบเขาพาโรจะค่อย ๆ เปลี่ยนจากสีน้ำตาลซีดของปลายหนาว กลายเป็นสีเขียวอ่อนสดใส โดยเฉพาะตามไหล่เขาและริมลำธารที่หิมะเพิ่งละลาย นี่คือช่วงที่ “บานแรก” ของดอกพญาเสือโคร่ง (Cherry Blossom แบบภูฏาน) และดอกไม้พื้นเมืองอื่น ๆ จะค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาทักทาย

เส้นทางระหว่างเมืองในช่วงนี้งดงามมาก แสงแดดอ่อนในตอนเช้า ตัดกับทุ่งเขียวและยอดเขาสีขาว ทำให้แม้เพียงการเดินทางระหว่างพาโรมายังทิมพู ก็กลายเป็นสิ่งที่ควรถ่ายภาพเก็บไว้

ในช่วงปลายเมษายนถึงต้นพฤษภาคม ยังเป็นฤดูของ ดอกโรโดเดนดรอน ซึ่งบานเต็มท้องเขาบางเส้นทาง โดยเฉพาะในเส้นทางเดินป่าแถบบุมถังและกังเต เป็นฤดูที่คนท้องถิ่นเรียกว่า “ช่วงปีใหม่ของธรรมชาติ” เพราะต้นไม้เริ่มกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูใบไม้ผลิ:

• 🌤️ กลางวัน: 17–25°C (อบอุ่นสบาย)
• 🌙 กลางคืน: 3–10°C (เย็นแต่ไม่หนาวจัด)

เหมาะสำหรับ: คนที่ชอบอากาศไม่หนาวเกินไป ชอบเดินเล่น ถ่ายภาพดอกไม้ และอยากเห็นภูฏานในแบบสดชื่น นุ่มนวล มีสีเขียวอ่อนและสีชมพูบาง ๆ แทรกอยู่ทั่วภูเขา

เทศกาลแนะนำ: Paro Tsechu เทศกาลหน้ากากที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของภูฏาน จัดขึ้นประมาณเดือนเมษายน — โอกาสทองที่คุณจะได้เห็นศิลปะการแสดงแบบดั้งเดิมในลานกว้างของพาโรซอง ท่ามกลางชาวภูฏานในชุดประจำชาติ

ฤดูร้อนและฤดูฝน (มิถุนายน – สิงหาคม) – เขียวที่สุดในรอบปี เงียบที่สุดในใจ

ถ้าคุณอยากเห็นภูฏานในเวอร์ชันที่ชุ่มชื่น เขียวขจี และมีชีวิตแบบไม่ปรุงแต่ง นี่คือช่วงเวลาที่คุณอาจไม่เคยคิดถึง…แต่ควรลองสัมผัสดูสักครั้ง

ฤดูฝนในภูฏานไม่เหมือนฤดูฝนในเมืองไทย ฝนตกเป็นระยะสั้น ๆ มักตกตอนกลางคืนหรือช่วงบ่าย แล้วเว้นให้มีแดดออกหรือหมอกบาง ๆ ลอยขึ้นมาตามแนวเขา เป็นช่วงที่ธรรมชาติกลับมาสมบูรณ์อย่างเงียบงาม ทุ่งนาถูกไถด้วยแรงควาย แทบไม่มีนักท่องเที่ยว รถบนถนนมีแต่วิว

จากพาโรสู่พูนาคา เส้นทางที่คดเคี้ยวตามสันเขาจะเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวเข้ม บางช่วงมีสายหมอกบางเลื่อมลอยอยู่ระหว่างเนิน ช่วงเช้า ๆ คุณอาจได้เห็นละอองน้ำเกาะบนใบไม้ และเสียงนกร้องที่เด่นขึ้นเพราะไม่มีนักท่องเที่ยวรบกวน

ที่ หุบเขาผอบจิกะ และ วัดชิมิ กลายเป็นสถานที่ที่เหมาะจะ “อยู่เงียบ ๆ” มากกว่าถ่ายภาพ เพราะทุกอย่างนิ่ง สะอาด และดูช้าแบบที่ใจเรามักลืมไปว่าชีวิตควรเป็นแบบนั้น

อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูฝน:

• 🌤️ กลางวัน: 22–27°C (อุ่นสบาย มีลม)
• 🌙 กลางคืน: 15–20°C (เย็นสบาย พอใส่แจ็คเก็ตบาง ๆ ได้)

เหมาะสำหรับ: คนที่อยากสัมผัสธรรมชาติแบบเงียบ ไม่รีบ ไม่ต้องถ่ายรูปทุกจุด แต่อยากเดินเล่นในเส้นทางที่ชุ่มฝน สด และไร้ผู้คน — เหมาะกับสาย “พักใจ” จริง ๆ

สิ่งที่ควรเตรียม: ร่ม, เสื้อกันฝน, รองเท้าเดินลุยทางดินนุ่ม และ…หัวใจที่พร้อมปล่อยให้ทุกอย่างช้าลง

ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) – ฟ้าใส เทือกเขาหิมาลัย และเทศกาลศักดิ์สิทธิ์

ถ้าคุณถามใครที่เคยไปภูฏานว่า “ช่วงไหนสวยที่สุด” หลายคนจะตอบเหมือนกัน — ฤดูใบไม้ร่วง

ตั้งแต่กลางกันยายนจนถึงปลายพฤศจิกายน คือช่วงที่ภูฏานเข้าสู่บรรยากาศใสและคมชัดที่สุดของปี ฝนหยุดตกแล้ว ท้องฟ้าเปิด ยอดเขาหิมาลัยสีขาวจะเริ่มมองเห็นได้จากเมืองต่าง ๆ ตั้งแต่ทิมพู พาโร ไปจนถึงบุมถังโดยไม่ต้องพึ่งดวง

ที่หุบเขาผอบจิกะต้นไม้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองอ่อน ๆ มีหมอกบางในตอนเช้า และช่วงนี้เองที่ นกกระเรียนคอดำ จะเริ่มบินกลับจากทิเบตมายังภูฏาน — เป็นสัญญาณฤดูที่ผู้คนเฝ้ารอ และถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในความเชื่อของชาวภูฏาน

หลายวัดในช่วงนี้จะจัดเทศกาลประจำปี เช่น Thimphu Tsechu และ Wangdue Tsechu — งานแสดงหน้ากากสีสันสดใสกลางลานวัดริมแม่น้ำ พร้อมผู้คนในชุดประจำชาติมาเฝ้าชมอย่างสงบ คุณจะได้เห็นความศรัทธาที่ไม่ได้จัดเพื่อการท่องเที่ยว แต่เพื่อสืบต่อจิตวิญญาณแห่งแผ่นดิน

อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูใบไม้ร่วง:

• ☀️ กลางวัน: 17–24°C (อากาศดี ฟ้าใส)
• 🌙 กลางคืน: 5–12°C (เริ่มเย็น ต้องมีเสื้อหนาเล็กน้อย)

เหมาะสำหรับ: คนที่อยากเห็นทั้งธรรมชาติ เทือกเขา ท้องฟ้าใส และวิถีชีวิตภูฏานแบบดั้งเดิม เหมาะกับนักถ่ายภาพ นักเดินทางครั้งแรก หรือคนที่อยากเก็บความทรงจำที่ลึกและชัดเจนในแสงอาทิตย์ของเดือนพฤศจิกายน

คำแนะนำ: ช่วงนี้เป็น High Season — โรงแรมดี ๆ มักเต็มเร็ว และตั๋วเครื่องบินไปภูฏานควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2–3 เดือน

ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) – หนาวที่สุด เงียบที่สุด แต่งดงามที่สุด

ถ้าคุณกำลังมองหาภูฏานในจังหวะที่แตกต่างที่สุดจากทุกฤดู — จังหวะที่เงียบกว่า ฟ้าสว่างกว่า และผู้คนลดน้อยลงจนได้ยินเสียงลมหุบเขา…ฤดูหนาวคือคำตอบ

ตั้งแต่ต้นธันวาคมถึงปลายกุมภาพันธ์ คือช่วงที่อุณหภูมิจะลดลงต่ำที่สุดของปี โดยเฉพาะในเมืองที่อยู่สูงอย่างพาโร ทิมพู และบุมถัง ที่บางวันอุณหภูมิช่วงเช้าอาจติดลบ แต่ความหนาวนั้นแลกมาด้วยฟ้าสีครามที่ชัดเจนจนเห็นแนวเขาหิมาลัยไกลสุดสายตา

หลายวันคุณจะได้แสงแดดที่อบอุ่นส่องเข้าตามหน้าต่างวัดเก่าแก่ พร้อมควันธูปลอยบาง ๆ และพระชรานั่งสวดมนต์เงียบ ๆ ในแสงเช้าสีทอง — เป็นภาพที่ไม่มีในฤดูไหนเลยนอกจากฤดูหนาว

และแน่นอนว่า ที่ หุบเขาผอบจิกะ (Phobjikha Valley) ในช่วงนี้เต็มไปด้วยนกกระเรียนคอดำ ที่บินมาอาศัยอยู่จนถึงต้นเดือนมีนาคม พวกมันสงบนิ่งเหมือนคนในหุบเขา และเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นปีใหม่ตามปฏิทินทิเบต

อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูหนาว:

• ❄️ กลางวัน: 10–15°C
• 🌙 กลางคืน: -5 ถึง 3°C (บางพื้นที่อาจต่ำกว่านี้)

เหมาะสำหรับ: คนที่อยากเห็นภูฏานแบบเงียบที่สุด ไม่มีนักท่องเที่ยวเลยในบางจุด เหมาะกับผู้ที่ทนหนาวได้ดี และอยาก “หยุดเวลา” ไว้กลางฤดูหนาวแห่งภูเขาหิมาลัย

ข้อดีเพิ่มเติม: ราคาตั๋วเครื่องบินและโรงแรมช่วงนี้มักถูกกว่าช่วง High Season / เป็นโอกาสดีในการสัมผัส “ภูฏานของคนท้องถิ่น” ที่แท้จริง

สรุป: แล้วช่วงไหน…คือเวลาที่ใช่?

ภูฏานในแต่ละฤดู มีจังหวะของตัวเอง —
ฤดูหนึ่งเต็มไปด้วยสีเขียวและสายหมอก
อีกฤดูหนึ่งมีฟ้าใส เทือกเขาสีขาว และเสียงกลองแห่งเทศกาล
อีกฤดูหนึ่งเต็มไปด้วยความสงบของหุบเขา
และอีกฤดูหนึ่ง…เต็มไปด้วยความเงียบของหิมะและศรัทธา

คำตอบของคำถามที่ว่า “ควรไปช่วงไหนดี?”
อาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ หรือเทศกาล
แต่อยู่ที่ว่า…คุณอยากให้การเดินทางครั้งนี้

“เป็นแบบไหนในความทรงจำของคุณ”

ไม่ว่าคุณจะเลือกฤดูไหน
ภูฏานก็ยังคงเป็นภูฏาน —
ประเทศที่เดินช้ากว่าที่อื่น และชัดเจนกว่าที่คุณคาดคิด

เพราะคนส่วนใหญ่ไปภูฏานเพียงครั้งเดียวในชีวิต
เราจึงอยากให้คุณได้สิ่งที่ดีที่สุดกลับมา

ทีม BRR Travel
ผู้เชี่ยวชาญด้านทัวร์ภูฏานอย่างรู้จริง