ใบอนุญาต : 11/12311

BRIT001 Winter in Bhutan ทัวร์ภูฏาน 5วัน 4คืน เที่ยวเมือง พาโร ทิมพู และ พูนาคา พักโรแรม 4 ดาว “รูดบัตรไม่ชาร์จ”

5วัน 4คืน
Availability : กุมภาพันธ์ 2568
Bhutan Airline B3
ประเทศภูฏาน

รหัสทัวร์ : BRIT001

(กรุณาแจ้งรหัสทัวร์กับเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง)

ทัวร์ไฮไลน์

Winter in Bhutan ทัวร์ภูฏาน 5วัน 4คืน เที่ยวเมือง พาโร ทิมพู และ พูนาคา พักโรแรม 4 ดาว โดยสายการบิน Bhutan Airline (B3) รูดบัตรไม่ชาร์จ

  • ท่านจะได้เที่ยวภูฏานแบบเจาะลึกถึงวัฒนธรรม ศิลปะ ประเพณี และ ผู้คนของประเทศภูฏาน ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
  • พักโรงแรม 4 ดาว 2 คืน กลางเมืองทิมพู เราจะพาท่านเที่ยวเล่นในเมืองและไม่เก็บกระเป๋าบ่อย
  • พักโรงแรมมาตรฐานวิวสวยเห็นวิวเมืองพาโร 2 คืน
  • มีอาหารเสริมจากประเทศไทยเสริมทุกมื้อ
  • ออกเดินทางพร้อมหัวหน้าทัวร์มีประสบการณ์ท่องเที่ยวภูฏาน ตั้งแต่ 10 ท่าน
  • มีการแสดงระบำหน้ากากแบบส่วนตัว
  • ใส่ชุดประจำชาติทั้งวันเที่ยวเมืองทิมพู โดยที่เราจัดวันให้เหมาะสม
วันเดินทาง

ราคาผู้ใหญ่

( พักห้องละ 2-3 ท่าน )

ราคาเด็กเสริมเตียง

( อายุน้อยกว่า 12 ปี พักกับผู้ใหญ่)

พักเดี่ยว
29 – 2 กุมภาพันธ์ 2568 59,499 บาท 58,499 บาท 6,900 บาท
12 – 16 กุมภาพันธ์ 2568 59,499 บาท 58,499 บาท 6,900 บาท

19 – 23 กุมภาพันธ์ 2568

วันประสูติกษัตริย์จิกมี่

59,499 บาท 58,499 บาท 6,900 บาท

เช็คจำนวนผุ้เดินทางและจองทัวร์ให้พนักงานของเราดูแลคุณ?

 

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1 : สนามบินสุวรรณภูมิ – เมืองพาโร – วัดคิชู – พิพิธภัณฑ์แห่งชาติภูฏาน – พาโรรินปุงซอง – วัดทำโช – ด่านชูซอม – อนุสรณ์สถานแห่งชาติภูฏาน -ไปรษณีย์ภูฏาน – ทาชิโชซอง

วันที่ 2 : หลวงพ่อสัจธรรม – ศูนย์อนุรักษ์ทาคินหลวง – จุดชมวิวซังเกกัง – โดชูล่าพาส – วัดชิมิ – พูนาคาซอง – สะพานเหล็ก –ทิมพู

วันที่ 3 : ( แต่งชุดประจำชาติ ) – วัดชางกังคา – สถาบันแห่งชาติโซริกชูซุม – ตลาดกลางเกษตรกร – ซิมโตคาซอง – จุดชมวิวสนามบินพาโร – เดินเล่นในเมืองพาโร (การแสดงระบำหน้ากาก 10 ท่านขึ้นไป)

วันที่ 4 : วัดถ้ำเสือ – เดินเล่นเมืองพาโร

วันที่ 5 : เมืองพาโร – สนามบินสุวรรณภูมิ

 

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1สนามบินสุวรรณภูมิ - เมืองพาโร - วัดคิชู - พิพิธภัณฑ์แห่งชาติภูฏาน - พาโรรินปุงซอง - วัดทำโช - ด่านชูซอม - อนุสรณ์สถานแห่งชาติภูฏาน -ไปรษณีย์ภูฏาน – ทาชิโชซอง

4:00 น.              คณะเดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น4 เคาน์เตอร์สายการบิน Bhutan Airline (B3) โดยเที่ยวบินที่ B3701 โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกในการ Check-in สัมภาระต่าง ๆ

6:30 น.              เครื่องบินออกเดินทางสู่ประเทศภูฏาน เดินทางสู่เมืองพาโร เมืองหน้าด่านสำคัญก่อนเดินทางสู่ดินแดนอื่นๆในประเทศภูฏาน โดยสายการบิน Bhutan Airline (B3) มีอาหารบริการบนเครื่อง เครื่องจะทำการลงจอดที่ประเทศอินเดียเพื่อทำความสะอาดและเติมน้ำมันเป็นเวลา 45 นาที (ไม่ต้องลงจากเครื่องบิน)โดยและเดินทางต่อไปยังประเทศภูฏาน

9:55 น.              เดินทางถึง สนามบินนานาชาติพาโร เมืองพาโร ประเทศภูฏาน หัวหน้าทัวร์จะนำท่านผ่าด่านตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋าเดินทาง ท่านสามารถซื้อซิมมือถือได้ก่อนออกจากสนามบิน หลังจากนั้นท่านจะได้พบกับคนขับรถและไกด์ท้องถิ่นที่จะมาดูแลท่านพร้อมต้อนรับแบบประเทศภูฏาน ภูฏานเป็นประเทศเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัย มีธรรมชาติที่สวยงามและวัฒนธรรมที่ล้ำค่าไม่เหมือนใคร ที่นี่คือดินแดนแห่งความสุข ซึ่งวัดความเจริญของประเทศด้วย “ดัชนีความสุขมวลรวมประชาชาติ” มากกว่าการมุ่งเน้นทางเศรษฐกิจ ผู้คนในประเทศภูฏาน มีความเป็นมิตรและรักษาประเพณีอันเก่าแก่ไว้อย่างดี ที่สำคัญ ภูฏานยังมีอารามและป้อมปราการที่สวยงาม

จากนั้นเราจะนำท่านเดินทางผ่านตัวเมืองพาโรไปยัง วัดคิชู (Kyichu Lhakhang) ตั้งอยู่ในเมืองพาโร ทางตะวันตกของภูฏาน เป็นหนึ่งในวัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดในเทือกเขาหิมาลัย สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 7 โดยพระเจ้าซองเซน กัมโป กษัตริย์ทิเบต เพื่อปราบปีศาจหญิงยักษ์ที่นอนพาดทั่วภูมิภาค วัดได้รับการบูรณะในปี 1839 และในปี 1968 สมเด็จพระราชินีอาชี เคซังได้สร้างวัดหลังที่สองเคียงข้างวัดเดิม

เที่ยง                 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางผ่านหุบเขาเมืองพาโร พิพิธภัณฑ์แห่งชาติภูฏาน หรือพาโรตาซอง ตั้งอยู่ในเมืองพาโร ก่อตั้งในปี 1968 เพื่อจัดแสดงศิลปะและวัตถุโบราณของภูฏานกว่า 3,000 ชิ้น แม้จะมีบางส่วนที่จัดแสดงหลังเหตุไฟไหม้ นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมภูฏานที่หลากหลาย พิพิธภัณฑ์มีบรรยากาศที่ผสมผสานอดีตกับปัจจุบันอย่างลงตัว อาคารทรงกลมของพิพิธภัณฑ์คล้ายเปลือกหอยสังข์ และห้ามถ่ายภาพภายใน แต่สามารถถ่ายภาพวิวรอบๆ ได้

                        ขับลงมาไม่ไกล นำท่านเข้าชม พาโรรินปุงซอง (Paro Rinpung Dzong) สร้างขึ้นในปี 1646 โดย ซับดรุง งาวัง นัมเกล เป็นซองที่มีชื่อเสียงและปรากฏบนธนบัตร 10 งุลตรัม รุ่นล่าสุด ในปี 1906 ซองเกิดไฟไหม้และวัตถุโบราณสำคัญถูกทำลาย และในปี 1969 สะพานดั้งเดิมถูกน้ำท่วม ปัจจุบันซองนี้เป็นที่ตั้งของสำนักงานรัฐบาลเขต ศาลท้องถิ่น และเป็นที่พำนักของพระสงฆ์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมพาโรรินปุงซองและเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตพระสงฆ์และในช่วงเทศกาลทิชู ยังสามารถชมการเต้นรำและการแสดงสดที่สะท้อนวัฒนธรรมภูฏาน

พาท่านเดินทางต่อไปยังเมืองทิมพู ระหว่างทางเราจะพาท่าน แวะถ่ายรูป วัดทัมโช (Tamchog Lhakhang) ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำจากเมืองพาโรไปยังทิมพู เป็นวัดที่อุทิศให้กับทังทง เกียลโป นักบุญในศตวรรษที่ 13 ผู้สร้างสะพานข้ามแม่น้ำนี้ แม้ว่าวัดทัมโชจะเป็นวัดส่วนบุคคลขนาดเล็ก นักท่องเที่ยวสามารถขออนุญาตพิเศษในการเยี่ยมชม วัดนี้ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีเนินเขาหินสูงและแห้งแล้ง

ก่อนเข้าเขตเมืองทิมพูเราจะพาท่าน แวะถ่ายรูปที่ ด่านชูซอม (Chuzom) ตั้งอยู่ทางใต้ของชายแดนเมืองทิมพูและเมืองพาโร เป็นจุดบรรจบของแม่น้ำพาชูและแม่น้ำทิมชู จึงเรียกว่า “ชูซอม” หมายถึงการบรรจบของแม่น้ำสองสาย ที่นี่มีจุดตรวจใหญ่สำหรับเจ้าหน้าที่ และสะพานที่เชื่อมถนนระหว่างเมืองพาโร ฮา ทิมพู และชุกะ สร้างขึ้นในทศวรรษ 1960 และขยายในทศวรรษ 1990

จากนั้นเราจะพาท่านเดินทางสู่เมืองทิมพู ทิมพูเป็นเมืองหลวงที่มีเสน่ห์และเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของประเทศภูฏาน ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่งดงาม เมืองนี้ผสมผสานความเก่าแก่และความทันสมัยอย่างลงตัว เพื่อเป็นเคารพและเป็นสิริมงคลแก่ตัวท่า เราจะพาท่านเข้าสักการะ อนุสรณ์สถานแห่งชาติ (National Memorial Chorten) เป็นสถูปสำคัญในเมืองทิมพู ภูฏาน สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงกษัตริย์รัชกาลที่ 3 สถูปนี้โดดเด่นด้วยยอดแหลมทองคำและระฆัง ชาวภูฏานสูงอายุมักเดินวนรอบสถูปทั้งวัน คำว่า “ชอร์ตัน” หมายถึง “ที่ประทับแห่งศรัทธา” สถูปสร้างตามสถาปัตยกรรมทิเบต มีลักษณะเด่นคือส่วนโค้งคล้ายแจกันและภาพแกะสลักของเทพเจ้าผู้ดุร้ายและเทพธิดา ภายในมีรูปปั้นพระโพธิสัตว์และแผ่นสลักครูสำคัญในพุทธศาสนา ไฮไลต์คือชั้นบนสุดที่มีภาพวาดเทพเจ้านิกายญิงมะและวิวเมืองทิมพู

จากนั้นพาท่านเข้า Check-In ที่โรงแรม จากนั้นทางไกด์จะนัดท่านเพื่อเดินทางไปยัง ที่ทำการไปรษณีย์ภูฏาน (National Post Office) จะมีของที่ระลึกและโพสต์การ์ดให้ท่านได้เลือกส่งกลับมาเมืองไทยอีกทั้งท่านยังสามารถถ่ายรูปตัวเองทำเป็นแสตมป์เก็บเป็นที่ระลึกหรือส่งกลับประเทศไทยเพื่อเป็นของฝากให้กับเพื่อน ๆ หรือญาติพี่น้องได้ อย่าลืมแต่งตัวสวย ๆ กันนะคะ

ทาชิโชซอง (Tashichho Dzong) หรือทิมพูซอง เป็นอาคารรัฐบาลสำคัญในเมืองทิมพู สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1216 และผ่านการบูรณะหลายครั้งหลังไฟไหม้และแผ่นดินไหว อาคารปัจจุบันสร้างขึ้นในปี 1952 โดยไม่ใช้ตะปู ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำวังชู รายล้อมด้วยสวนสวย ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของห้องบัลลังก์ สำนักงานของกษัตริย์ กระทรวงมหาดไทยและการคลัง และหน่วยงานรัฐบาลอื่นๆ นอกจากนี้ยังเป็นพระราชวังฤดูร้อนของพระสังฆราช

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

                        นำทุกท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม OSEL ระดับ 4 ดาว หรือ เทียบเท่า

วันที่ 2หลวงพ่อสัจธรรม - ศูนย์อนุรักษ์ทาคินหลวง – จุดชมวิวซังเกกัง - โดชูล่าพาส - วัดชิมิ - พูนาคาซอง - สะพานเหล็ก –ทิมพู

เช้า                    รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

วันนี้เราจะออกเช้าสักนิดละเดินทางขึ้นเขาไปสักการะหลวงพ่อสัจธรรม (Buddha Dordenma) หลวงพ่อสัจธรรมจะปรากฏเด่นชัดท่ามกลางภูเขา พระพุทธรูปสูง 51.5 เมตรนี้เป็นหนึ่งในพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในบรรจุพระพุทธรูปองค์เล็ก 125,000 องค์ นอกจากนี้ยังมีคำทำนายโบราณเกี่ยวกับการสร้างพระพุทธรูปนี้เพื่อประทานพรและความสงบสุขแก่โลก บัลลังก์ที่พระพุทธเจ้าประทับนั่งยังเป็นห้องปฏิบัติธรรมขนาดใหญ่ เป็นสถานที่ที่งดงามและศักดิ์สิทธิ์ในภูฏาน

จากนั้นเราจะพาท่านเดินทางไปยังศูนย์อนุรักษ์ทาคินหลวง (Royal Takin Preserve Center) ผู้มาเยือนภูฏานครั้งแรกมักจะประหลาดใจกับทาคิน สัตว์ประจำชาติที่มีรูปร่างคล้ายการผสมผสานระหว่างแพะและวัว ทาคินสามารถชมได้ที่ศูนย์อนุรักษ์ทาคินหลวงในเขตโมทิถัง ซึ่งเดิมเคยเป็นสวนสัตว์ กษัตริย์ภูฏานได้สั่งปิดสวนสัตว์เพื่อปล่อยสัตว์ แต่ทาคินปฏิเสธที่จะจากไป จึงสร้างที่อยู่อาศัยให้พวกมัน เรื่องราวตำนานกล่าวว่านักบุญในศตวรรษที่ 15 สร้างทาคินขึ้นจากหัวแพะและโครงกระดูกวัว ศูนย์แห่งนี้มีพื้นที่ 21 ไร่ และเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวสำคัญของภูฏาน จากนั้นไม่ไกลพาท่านจอดแวะถ่ายรูปเมืองทิมพูสวย ๆ ที่ จุดชมวิวซังเกกัง (Sangaygang View Point) ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองทิมพูเพียง 6-7 กิโลเมตร บนความสูง 2,685 เมตร ทำให้สามารถชมทัศนียภาพแบบพาโนรามาของเมืองได้ จุดชมวิวนี้เหมาะสำหรับการเดินเล่นยามเช้าและเย็น ชมพระอาทิตย์ตก และแสงไฟเมืองที่งดงาม ล้อมรอบด้วยป่าสนและธงอธิษฐานสีสดใส นักท่องเที่ยวนิยมมาชมวิว ขี่จักรยาน ปิคนิค และแขวนธงอธิษฐาน

นำท่านเดินทางสู่เมืองพูนาคา ระหว่างทางเราจะพาท่านแวะ โดชูล่าพาส (Dochula Pass) เป็นจุดชมวิวที่สำคัญของภูฏาน ตั้งอยู่บนเส้นทางระหว่างทิมพูกับพูนาคา ที่ระดับความสูง 3,100 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวพาโนรามาของเทือกเขาหิมาลัย โดยเฉพาะยอดเขามาซังกังที่สูงถึง 7,158 เมตร อากาศที่นี่มักมีหมอกปกคลุมเพิ่มเสน่ห์เฉพาะตัว ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการเยี่ยมชมคือระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงตุลาคม ไฮไลต์สำคัญคือ 108 สถูปแห่งชัยชนะ ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงทหารภูฏานที่เสียชีวิตในสงคราม

                        เดินทางถึงเมือง เมืองพูนาคาเป็นเมืองที่สวยงามและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ในภูฏาน ตั้งอยู่ในหุบเขาที่มีแม่น้ำสองสายมาบรรจบกัน เมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของภูฏาน

กลางวัน             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

                        หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จ ไกด์ของเราจะพาท่านเดินทางผ่านทุ่งนาสู่หมู่บ้านโลเบซ่า (Lobesa) เป็นหมู่บ้านที่มีเสน่ห์และเป็นที่รู้จักด้วยทัศนียภาพที่สวยงามและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวภูฏานมีทุ่งนาและหมู่บ้านนี้ยังมีเป็นไฮไลน์เพราะบ้านเรือนส่วนใหญ่ตกแต่งผนังด้วยอวัยวะเพศชายและบูชาศิวลึงค์ตามความเชื่อเรื่องสิริมงคลแห่งการป้องกันสิ่งชั่วร้ายและการให้กำเนิดชีวิต

นำท่านเข้าสักการะ วัดชิมิ (Chimi Lhakhang) ตั้งอยู่บนเนินเขางดงามในพูนาคา เป็นที่รู้จักในชื่อ “วัดแห่งความอุดมสมบูรณ์” ซึ่งมีชื่อเสียงในการอวยพรให้คู่สมรสที่ไม่มีบุตรสามารถมีลูกได้ วัดนี้สร้างโดยดรุคปา ลามะองค์ที่ 14 งาวัง โชเกล และได้รับแรงบันดาลใจจาก “พระผู้บ้าศักดิ์สิทธิ์” หรือ คุนเลย์ (Kunley) ผู้สนับสนุนการใช้ภาพลึงค์เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย วัดนี้มีสถาปัตยกรรมงดงามพร้อมการแกะสลักและภาพวาดดั้งเดิม ผู้แสวงบุญและคู่รักจากทั่วโลกมาที่นี่เพื่อขอพรและสัมผัสพิธีกรรมดั้งเดิมที่ไม่เหมือนใคร

จากนั้นพาท่านเดินทางเลียบแม่น้ำ โพจู (Pho Chu) ไปยัง พูนาคาซอง (Punakha Dzong) พูนาคาซองเป็นหนึ่งในซองที่งดงามและเก่าแก่ที่สุดในภูฏาน สร้างขึ้นโดยงาวัง นัมเกล ชับดรุง รินโปเช ซองนี้ตั้งอยู่ที่บรรจบกันของแม่น้ำโปชูและโมชูในหุบเขาพูนาคา และเคยเป็นเมืองหลวงจนถึงทศวรรษ 1950 ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมและที่พักฤดูหนาวของดรัดซัง ความงดงามยิ่งเพิ่มขึ้นในฤดูใบไม้ผลิเมื่อดอกจาคารันดาบานสะพรั่ง พูนาคาซองยังเป็นสถานที่จัดเทศกาลดรอมเชประจำปี ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาสัมผัสสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมภูฏานที่งดงามไม่ไกลกัน

พาท่านชม สะพานแขวนเหล็กเมืองพูนาคา สะพานนี่เป็นสะพานแขวนเหล็กที่ยาวที่สุดในภูฏาน สร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนอีกฝั่งของแม่น้ำสามารถเดินทางเข้ามาที่พูนาคาซองจากอีกฝั่งของแม่น้ำได้สะดวก

                        จากนั้นเดินทางออกจาดเมืองพูนาคาเพื่อกลับไปยังเมืองทิมพู

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

                        นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม Osel ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

วันที่ 3( แต่งชุดประจำชาติ ) - วัดชางกังคา – สถาบันแห่งชาติโซริกชูซุม - ตลาดกลางเกษตรกร - ซิมโตคาซอง - จุดชมวิวสนามบินพาโร – เดินเล่นในเมืองพาโร (การแสดงระบำหน้ากากหากมากกว่า 10 ท่านขึ้นไป)

เช้า                    รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร ของโรงแรม

หลังอาหารเช้าทางบริษัทฯ จะเตรียมชุดประจำชาติของประเทศภูฏานให้ท่านใส่เพื่อเดินทางท่องเที่ยวในวันนี้ สำหรับชุดผู้ชายเรียกว่า “โค” และชุดสำหรับผู้หญิงเรียกว่า “คีรา”

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางไป ชางกังคา ลาคัง (Changangkha Lhakhang) ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ในพื้นที่ส่วนบนของทิมพู ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดยลูกหลานของนิมา บุตรชายของภาโจ ดรูโกม ชิกโป ภายในวัดบรรจุพระธาตุและของศักดิ์สิทธิ์มากมาย รวมถึงพระโพธิสัตว์เจ้าเฉนรีซี (Chenrigzi) ที่มีสิบเอ็ดเศียรและพันกร วัดนี้เป็นสถานที่สำคัญสำหรับครอบครัวที่มีเด็กทารก เนื่องจากเชื่อว่าเป็นเทพผู้ปกป้องเด็กในเขตทิมพู นอกจากนี้ยังมีวงล้อสวดมนต์ขนาดใหญ่และพื้นที่สำหรับแม่ชี

จากนั้นนำท่านชมสถานที่ผลิตบุคลากรที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ สถาบันแห่งชาติโซริกชูซุม (National Institute for Zorig Chusum) ก่อตั้งขึ้นในปี 1971 โดยรัฐบาลภูฏานเพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมศิลปะแบบดั้งเดิม สถาบันนี้ตั้งอยู่ในทิมพูและตราชิยังเซ โดยเปิดสอนทักษะหัตถกรรมทั้ง 13 แบบ หรือ “โซริกชูซุม” เช่น การวาดภาพ การแกะสลัก การปั้น การปักผ้า และการทอผ้า ซึ่งสะท้อนถึงวัฒนธรรมและศาสนาพุทธของภูฏาน ศิลปะเหล่านี้ถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเอกลักษณ์ของประเทศ นักเรียนที่นี่ใช้เวลา 4-6 ปีในการฝึกฝน และผลิตภัณฑ์จากสถาบันสามารถหาซื้อได้ในตลาดของทิมพู

หลังจำนั้นนำท่านไปเยี่ยมชมสถานที่ขายผักปลอดสารพิษที่ ตลาดเกษตรกรเซนเทนเนียรี (Centenary Farmers Market) ในทิมพูเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูฏาน ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำวังชู (Wang Chhu) เป็นจุดศูนย์รวมของเกษตรกรจากทั่วประเทศที่นำผลผลิตสดๆ จากฟาร์มมาขายตรงให้กับลูกค้า ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 โดยสมเด็จพระราชินี อาชี เดเชน ยังซอม วังชุก (Ashi Dechen Yangzom Wangchuk) ตลาดนี้มีแผงขายประมาณ 400 แผงในอาคารสองชั้น เปิดให้บริการตั้งแต่วันพฤหัสบดีถึงวันอาทิตย์

ก่อนที่เราจะเดินทางกลับไปยังเมืองพาโรเราจะพาท่านแวะที่ ซิมโตคาซอง (Simtokha Dzong) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เก่าแก่ที่สุดในภูฏาน ตั้งอยู่บนเนินที่มองเห็นหุบเขาทิมพู สร้างโดยซับดรุง งาวัง นัมเกล เพื่อป้องกันตนเองจากศัตรูและเป็นจุดแบ่งเขตระหว่างสามภูมิภาค ตำนานเล่าว่าซองนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อกักขังปีศาจที่ทำร้ายผู้คนบริเวณนี้ ปัจจุบัน ซิมโตคาซองประกอบด้วยห้องลามะ โรงเรียนสอนศาสนา และห้องเก็บอาวุธ นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและสัมผัสประวัติศาสตร์อันลึกซึ้งของสถานที่นี้

กลางวัน             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเราจะเดินทางไปยังเมืองพาโร เมืองพาโรเป็นเมืองที่งดงามและสำคัญในภูฏาน ตั้งอยู่ในหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยภูเขา ระหว่างเดินทางท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาหิน เราจะจอดให้ท่านแวะถ่ายรูปนะจุดชมวิวระหว่างทาง หลังจากนั้นเราจะพาท่านแวะถ่ายรูป ณ จุดชมวิวสนามบินพาโร (Paro Airport Bird’s eye view) เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับภาพมุมสูงที่เห็นหุบเขาเขียวขจี ภูเขางดงาม ท้องฟ้าสีคราม และแม่น้ำพาโร การได้เห็นเครื่องบินขึ้นลงที่นี่จะเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและควรค่าแก่การเก็บภาพทั้งในกล้องและในใจ

จากนั้นเราจะพาท่าน Check-In ที่โรงแรมที่พัก และทางไกด์จะนัดเวลาท่านเพื่อเดินเล่นย่านและ ช้อบปิ้ง ณ พาโร สตรีท Paro Walking Street ในเมืองพาโรเป็นถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่นี่คุณจะได้พบกับร้านค้าเล็กๆ ที่ขายสินค้าพื้นเมือง งานหัตถกรรม และของที่ระลึกต่างๆ ถนนสายนี้เป็นจุดยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศแบบดั้งเดิมของภูฏาน พร้อมทั้งมีร้านอาหารและคาเฟ่ที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มท้องถิ่น การเดินเล่นบน Paro Walking Street จะทำให้คุณได้สัมผัสชีวิตประจำวันของชาวภูฏานอย่างใกล้ชิดและเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่เป็นกันเองครับ

                        (สำหรับกรุ๊ปที่เดินทางมากกว่า 10 ขึ้นไปเราจะมีการแสดงระบำหน้ากาก แบบส่วนตัวให้ท่านได้ชม การแสดงระบำหน้ากากจะมาเป็นคณะ มีนักแสดงและนักดนตรีหลายท่าน นักแสดงจะทำการเต้นระบำหน้ากาก ในหลาย ๆ ภาคของประเทศภูฏานซึ่งจะมีการแสดงและความหมายสอดคล้องกับการใช้ชีวิตของประชาชนในภูมิภาคนั้นหากกรุ๊ปเล็กน้อยกว่า 10 ท่านจะมีค่าใช้จ่ายในการแสดง )

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

                        นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม Mandala Resort ระดับมาตรฐานหรือเทียบเท่า

วันที่ 4วัดถ้ำเสือ – เดินเล่นเมืองพาโร

เช้า                    รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร ของโรงแรม

หลังรับประทานอาหารเช้านำท่านออกเดินทางสู่ วัดเสือถ้ำ หรือ พาโร ตั๊กซัง (Paro Taktsang) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดในภูฏาน ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงประมาณ 900 เมตรเหนือเมืองพาโร วัดนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1692 และเป็นถ้ำทำสมาธิมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 ตำนานกล่าวว่ากูรู รินโปเช บินมาที่นี่บนหลังเสือเพื่อปราบปีศาจ ปัจจุบันเป็นศาสนสถานสำคัญที่มีวัดสี่แห่งและที่พักสำหรับพระภิกษุ การเยี่ยมชมวัดต้องเดินป่าระยะสั้น หรือเช่าม้าสำหรับผู้ที่ไม่สามารถเดินไหว ( ราคาทัวร์ไม่รวมค่าม้าหรือล่อ ราคาประมาณ USD 30 หากท่านขี่ม้าจะขี่ได้ถึงแค่จุดพักที่มีร้านอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น ) หลังจากขี่ม้าเราจะพาท่านพักดื่มชากาแฟก่อนเดินทางต่ออีกประมาณ 1 ชั่วโมง เป้นทางเดินขึ้นเขาและทางเดินตรง จะถึงยอดเขาที่ตั้งระหว่างวัดถ้ำเสือและจุดที่คุณยืนอยู่ จุดนี้จะมีบันไดขึ้นลง 700 ขั้น เพื่อเข้าสู่ตัววัดถ้ำเสือ ท่านต้องฝากสำภาระและกล่องถ่ายรูปและมือถือเนื่องเนื่องจากห้ามถ่ายภาพภายในวัด การเดินทางไปยังวัดเสือถ้ำเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนภูฏานเพื่อเป็นสิริมงคลและบุญกุศลแก่ท่าน

เดินทางลงเขารอพร้อมกันใครถึงด้านล่างก่อนสามารถถ่ายรูปวัดถ้าเสือจากด้านล่างเล่นและยังมีร้านขายของของคนเนปาลให้ท่านได้ช้อปปิ้งอีกด้วย เมื่อคณะพร้อมแล้วเราจะเดินทางกลับที่พักเพื่ออาบน้ำแต่งตัว และเดินทางไปเดินเล่นย่านและ ช้อบปิ้ง ณ พาโร สตรีท Paro Walking Street อีกรอบและรอทานอาหารค่ำ

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

                        นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม Mandala Resort ระดับมาตรฐานหรือเทียบเท่า

วันที่ 5เมืองพาโร – สนามบินสุวรรณภูมิ

เช้า                    รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

                        นำท่านเดินทางสู่สนามบินพาโร เพื่อนำท่านเดินทางสู่กรุงเทพ ฯ

10:35 น.             เดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Bhutan Airlines เที่ยวบินที่ B3-700

                        มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน เครื่องจะแวะรับส่งผู้โดยสารที่เมืองกัลกัตตา ประเทศอินเดียประมาณ 30 นาที โดยท่านไม่ต้องลงจากเครื่อง

16:05 น.             เดินทางสู่กรุงเทพ ฯ โดยสวสดิภาพ พร้อมความประทับใจในการบริการ

เงื่อนไขการชําระเงิน
  • กรุณาทำการจองก่อนการเดินทาง อย่างน้อย 60 วันทำการหรือก่อนหน้านั้น โดยส่งLINE หรือ อีเมลล์หน้าพาสปอร์ตผู้เดินทาง เพื่อยินยันการจองที่นั่ง
  • กรุณาชำมัดจำ ภายใน 2 วัน หลังจากทำการจอง
  • ส่วนที่เหลือกรุณาชำระ ภายใน 20 วัน ก่อนเดินทาง

นโยบายการชำระเงิน

บริษัทฯ ไม่มีนโยบายให้ท่านชำระเงินผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัว
หากมีการติดต่อให้โอนเงินเข้าบัญชีโปรดพึงระวังว่าท่านอาจถูกกลุ่มมิจฉาชีพที่แอบอ้างชื่อบริษัทฯ เพื่อการหลอกลวง

Photos
สนใจจองทัวร์
สนใจจองทัวร์หรือหาโปรแกรมที่ต้องการไม่เจอให้พนักงานเราช่วยดูแลนะคะ